ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคภาคครัวเรือนในพื้นที่ภาคใต้ ด้านเศรษฐกิจ เดือนมีนาคม 2561
ศูนย์วิจัยนวัตกรรมทางธุรกิจ คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยหาดใหญ่ ได้ดำเนินการจัดทำดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคภาคครัวเรือนในพื้นที่ภาคใต้ ด้านเศรษฐกิจ ในเดือนมีนาคม โดยเก็บแบบสอบถามกับกลุ่มตัวอย่างจาก ประชาชนภาคครัวเรือน ในพื้นที่ 14 จังหวัดภาคใต้ จำนวน 420 ตัวอย่าง พบว่า เป็นเพศหญิง คิดเป็นร้อยละ 61.20 เพศชาย ร้อยละ 38.80 ส่วนใหญ่มีอายุระหว่าง 35-44 ปี คิดเป็นร้อยละ 36.50 และมีระดับการศึกษาปริญญาตรี คิดเป็นร้อยละ 34.70
ผลการสำรวจความเชื่อมั่นผู้บริโภคภาคครัวเรือนในพื้นที่ภาคใต้ ด้านเศรษฐกิจ เดือนมีนาคม เปรียบเทียบ เดือนกุมภาพันธ์ และคาดการณ์ในอีก 3 เดือนข้างหน้า
รายการข้อคำถาม | กุมภาพันธ์ | มีนาคม | คาดการณ์ใน 3 เดือนข้างหน้า | ||||||
เพิ่มขึ้น/ | คงที่/ | ลดลง/ | เพิ่มขึ้น/ | คงที่/ | ลดลง/ | เพิ่มขึ้น/ | คงที่/ | ลดลง/ | |
ดีขึ้น | เท่าเดิม | แย่ลง | ดีขึ้น | เท่าเดิม | แย่ลง | ดีขึ้น | เท่าเดิม | แย่ลง | |
1. ภาวะเศรษฐกิจโดยรวม | 26.80 | 53.10 | 20.10 | 24.90 | 50.70 | 24.40 | 36.50 | 50.40 | 13.10 |
2. รายได้จากการทำงาน | 16.80 | 45.70 | 37.50 | 14.30 | 46.80 | 38.90 | 38.60 | 47.50 | 13.90 |
3. โอกาสในการหางานทำ/ได้งานใหม่ | 15.30 | 47.30 | 37.40 | 13.80 | 49.60 | 36.60 | 32.40 | 50.10 | 17.50 |
4. รายจ่ายเพื่อซื้อสินค้าอุปโภค บริโภคที่จำเป็นในครัวเรือน | 27.60 | 57.80 | 14.60 | 25.10 | 55.40 | 19.50 | 39.60 | 49.80 | 10.60 |
5. รายจ่ายเพื่อซื้อสินค้าประเภทเครื่องใช้ไฟฟ้า ได้แก่ โทรทัศน์ ตู้เย็น ไมโครเวฟ เครื่องเสียง พัดลม เครื่องปรับอากาศ เครื่องซักผ้า ฯลฯ | 17.10 | 52.30 | 30.60 | 19.60 | 49.70 | 30.70 | 32.80 | 35.70 | 31.50 |
6. รายจ่ายที่เกี่ยวข้องด้านอสังหาริมทรัพย์ ได้แก่ ซื้อ ปรับปรุง ต่อเติม ซ่อมแซม บ้านและที่อยู่อาศัย | 13.40 | 46.20 | 40.40 | 12.70 | 49.50 | 37.80 | 35.60 | 45.80 | 18.60 |
7. รายจ่ายด้านการท่องเที่ยว เช่น การเดินทาง ของฝาก ฯลฯ | 30.10 | 54.60 | 15.30 | 25.30 | 52.50 | 22.20 | 45.70 | 43.20 | 11.10 |
ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคภาคครัวเรือนในพื้นที่ภาคใต้ เดือน มกราคม กุมภาพันธ์ และมีนาคม 2561
รายการข้อคำถาม | มกราคม | กุมภาพันธ์ | มีนาคม |
1. ภาวะเศรษฐกิจโดยรวม | 52.00 | 53.35 | 50.25 |
2. รายได้จากการทำงาน | 36.20 | 39.65 | 37.70 |
3. โอกาสในการหางานทำ/ได้งานใหม่ | 38.45 | 38.95 | 38.60 |
4. รายจ่ายเพื่อซื้อสินค้าอุปโภค บริโภคที่จำเป็นในครัวเรือน | 53.05 | 56.50 | 52.80 |
5. รายจ่ายเพื่อซื้อสินค้าประเภทเครื่องใช้ไฟฟ้า ได้แก่ โทรทัศน์ ตู้เย็น ไมโครเวฟ เครื่องเสียง
พัดลม เครื่องปรับอากาศ เครื่องซักผ้า ฯลฯ |
42.55 | 43.25 | 44.45 |
6. รายจ่ายที่เกี่ยวข้องด้านอสังหาฯ ได้แก่ ซื้อ ปรับปรุง ต่อเติม ซ่อมแซม บ้านและที่อยู่อาศัย | 34.10 | 36.50 | 37.45 |
7. รายจ่ายด้านการท่องเที่ยว ได้แก่ การเดินทาง ของฝาก ฯลฯ | 56.15 | 57.40 | 51.55 |
8. ความเชื่อมั่นผู้บริโภคโดยรวม | 44.64 | 46.51 | 44.69 |
ผศ.ดร.วิวัฒน์ จันทร์กิ่งทอง ผู้จัดการศูนย์วิจัยนวัตกรรมทางธุรกิจ รายงานผลการสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคภาคครัวเรือนในพื้นที่ภาคใต้ ด้านเศรษฐกิจ เดือนมีนาคม พบว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคโดยรวมปรับตัวลดลง เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนกุมภาพันธ์
ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่มีการปรับตัวลดลง ได้แก่ ภาวะเศรษฐกิจโดยรวม รายได้จากการทำงาน โอกาสในการหางานทำ/ได้งานใหม่ รายจ่ายเพื่อซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็นในครัวเรือน และรายจ่ายด้านการท่องเที่ยว โดยปัจจัยลบส่วนหนึ่งมาจากความวิตกกังวลต่อความผันผวนของเศรษฐกิจโลกที่ประเทศสหรัฐอเมริกาและประเทศจีนได้ออกมาตรการกีดกันทางการค้าต่อกัน ส่งผลกระทบเชิงลบเป็นวงกว้างต่อเศรษฐกิจทั่วโลก รวมทั้งประเทศไทย โดยทำให้การค้าการลงทุนชะลอตัวลง ราคาสินค้าการเกษตรปรับตัวลดลงอย่างชัดเจนและมีแนวโน้มที่จะลดลงอีกในอนาคต ประชาชนเกิดความวิตกกังวลจึงชะลอการจับจ่ายใช้สอยต่าง ๆ ซึ่งภาครัฐและเอกชนต้องร่วมมือกันแก้ปัญหาดังกล่าว เพื่อเพิ่มความเชื่อมั่นของประชาชน
ขณะที่ผลคาดการณ์ในอีก 3 เดือนข้างหน้า ประชาชนส่วนใหญ่เชื่อว่าภาวะเศรษฐกิจโดยรวม และรายได้จากการทำงานจะเพิ่มขึ้น คิดเป็นร้อยละ 36.50 และ 38.60 ตามลำดับ ส่วนความเชื่อมั่นต่อรายจ่ายเพื่อซื้อสินค้าอุปโภค บริโภคที่จำเป็นในครัวเรือน และรายจ่ายด้านการท่องเที่ยว ในอีก 3 เดือนข้างหน้า จะเพิ่มขึ้น คิดเป็นร้อยละ 39.60 และ 45.70 ตามลำดับ
ปัจจัยที่ประชาชนส่วนใหญ่มองว่ามีผลกระทบต่อภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบันมากที่สุด คือ ค่าครองชีพ คิดเป็นร้อยละ 31.70 รองลงมา คือ ราคาสินค้า และราคาพืชผลทางการเกษตร คิดเป็นร้อยละ 25.40 และ 13.20 ตามลำดับ ขณะที่ปัญหาเร่งด่วนที่ประชาชนส่วนใหญ่มองว่ารัฐบาลควรให้ความช่วยเหลือเป็นอันดับแรก คือ ราคาพืชผลทางการเกษตร รองลงมา คือ ค่าครองชีพ และราคาสินค้า ตามลำดับ